Sweat equity
ผู้ก่อตั้งธุรกิจสตาร์ทอัพส่วนมากมักนำส่วนตัวเงินมาลงธุรกิจเป็นเวลาหลายเดือนหรือหลายปี โดยที่ไม่มีการจ่ายเงินเดือนให้กับตัวเอง การทำงานที่ไม่ได้ค่าจ้างนี้ เป็นการวัดว่าผู้ที่มีส่วนในการก่อตั้งสตาร์ทอัพนั้นมีความทุ่มเท และมีบทบาทต่อธุรกิจมากน้อยแค่ไหน
Sweat equity คือ หุ้นจากแรงงาน แทนที่จะเป็นหุ้นจากการลงเงิน ซึ่งท้ายที่สุด Sweat equity จะถูกนำมาพิจารณา เมื่อคุณมีการขายหุ้นบริษัทหรือมีหุ้นส่วนมาร่วมทำธุรกิจ
7. Equity crowdfunding
Equity crowdfunding คือ การให้หุ้นแก่คนที่มาระดมทุนให้กับธุรกิจ โดยปกติเว็บไซต์ระดมจากมวลชน (Crowdfunding) มักเคลมว่าจะช่วยให้คุณได้เงินทุนเพื่อไปทำสตาร์ทอัพ ในรูปแบบการบริจาคเงิน พรีออร์เดอร์ หรือเหรียญรางวัล
แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ที่อเมริกาได้มีการออกกฎใหม่สำหรับสตาร์ทอัพที่ระดมทุนผ่าน Crowdfunding ได้ถึง 50 ล้านเหรียญฯ แลกกับหุ้นบริษัท โดยธุรกิจสามารถเสนอขายหุ้นให้กับบุคคลภายนอกที่เป็น Non-accredited investors
8. Ramen-profitable
ผมเคยเขียนถึงการทำกำไรแบบราเม็งไปแล้วในบทความของ Paul Graham ไปตามอ่านกันได้ที่นี่ครับ
การทำกำไรแบบราเม็ง เกิดขึ้นเมื่อสตาร์ทอัพประกาศว่า ธุรกิจมีกระแสเงินสดเป็นบวก (Positive Cash Flow) เกิดขึ้นแต่ยังไม่สามารถที่จะจ่ายเงินเดือนให้แก่ผู้ก่อตั้งได้ ซึ่งเป็นการเปรียบเปรยถึง การที่ผู้ก่อตั้งธุรกิจสามารถอยู่ได้ด้วยการกินบะหมี่ถ้วย และมีเงินพอที่จะจ่ายค่ากินอยู่ของตัวเองแบบฉิวเฉียด โดยปกติ "Ramen-Profitable" เป็นคำในเชิงบวกและได้รับการยอมรับว่าธุรกิจสามารถที่จะตั้งตัวได้ (แต่ยังไม่ถึงกับทำกำไรมหาศาล)
9.
Global
สมัครเป็นสมาชิกบนแพลตฟอร์ม การสมัครเป็นผู้ลงทุน ผู้ใช้งานจะต้องทำการลงทะเบียนกับทางแพลตฟอร์มโดยการสมัครสมาชิกและกรอกรายละเอียดประวัติส่วนตัวให้ถูกต้อง ข้อมูลทั้งหมดจะได้รับการตรวจสอบจากทางทีมงานว่ามีความถูกต้องและสามารถยืนยันตัวตนได้จริง ผู้ลงทุนจะต้องกรอกข้อมูลที่สามารถเชื่อถือได้ทั้งหมดลงในแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลทั่วไปหรือรูปภาพ 2. สมัครเป็นผู้ลงทุน (Become an Investor) ประเภทผู้ลงทุน จะถูกแยกประเภทตามกฎของกลต. เลือก สมัครเป็นผู้ลงทุน เพื่อที่จะให้ข้อมูลรายละเอียดของสำเนาและเลือกเอกสารใดเอกสารหนึ่งที่จะสมัครตามประเภทของผู้ลงทุน นักลงทุนจะต้องมีบัญชีธนาคารกสิกรไทย สำหรับคืนเงินจากการถอนการจองซื้อหลักทรัพย์ 1. ไฟล์รูปสำเนาสมุดบัญชีของธนาคารกสิกรไทย 2. เลขที่บัญชี 3.
ล. ต.
Equity Crowdfunding คืออะไร ต่างจาก Debt Crowndfunding อย่างไรบ้าง
ล. ต. โดยในขณะนี้แพลตฟอร์มของเราได้มีให้บริการหุ้นคราวด์ฟันดิง (Equity Crowdfunding) ด้วยเช่นเดียวกัน นักลงทุนที่กำลังมองหาช่องทางในการกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตของคุณ สามารถอ่านรายละเอียดหุ้นคราวด์ฟันดิงที่กำลังระดมทุนอยู่บนแพลตฟอร์มเพียร์ พาวเวอร์ในขณะนี้เพิ่มเติม ได้ที่ปุ่มด้านล่างนี้เลยครับ
- โมเดล 1 18 12
- Equity crowdfunding คือ pro
- อ้างอิง apa 6 essay
- Equity crowdfunding คือ group
- Equity crowdfunding คือ reviews
- ทำความรู้จัก LiVE แพลตฟอร์มระดมทุนสำหรับ Startup ในประเทศไทย | Techsauce
- Burger king พระราม 9 oz
- Equity crowdfunding คือ net
Stock
ปัจจุบันมีช่องทางการลงทุนรูปแบบใหม่มากมาย ซึ่งรวมถึง "คราวด์ฟันดิง (Crowdfunding)" การลงทุนทางเลือกใหม่ ที่ให้นักลงทุนมีโอกาส ได้ลงทุนในธุรกิจขนาดกลาง – ขนาดเล็ก (SME) ที่มีศักยภาพในการเติบโต และถ้าคุณคือ หนึ่งในนักลงทุน ที่สนใจใน คราวด์ฟันดิง (Crowdfunding) แต่ยังไม่แน่ใจว่าควรจะเลือกลงทุนใน Debt crowdfunding หรือ Equity crowdfunding วันนี้ เพียร์ พาวเวอร์ จะมาอธิบาย รวมถึงเปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย ให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นครับ
คราวด์ฟันดิง (Crowdfunding) คือ อะไร?
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ
Equity Crowdfunding คืออะไร? - PeerPower
เจ้าของกิจการผู้ขอออกหุ้นคราวด์ฟันดิง
เจ้าของธุรกิจ SME ที่จดทะเบียนนิติบุคคลแล้ว และต้องการระดมทุนเพื่อขยายกิจการ จึงนำกิจการของตนเองมาขอระดมทุนจากนักลงทุนในลักษณะการออกหุ้น ผ่านผู้ให้บริการที่ทำหน้าเป็นตัวกลางระหว่างผู้ออกหุ้นกับนักลงทุน ซึ่งผู้ออกหุ้นต้องมีคุณสมบัติดังต่อนี้
เป็นบริษัทจดทะเบียน
ขอระดมทุนจากนักลงทุนรายย่อยไม่เกิน 20 ล้านบาทต่อปี หรือไม่เกิน 40 ล้านบาทต่อจำนวนทั้งหมด
ขอระดมทุนต่อนักลงทุนรายใหญ่ไม่มีจำนวนจำกัด
2. นักลงทุน
คือผู้ที่นำเงินมาลงทุนกับกิจการ SME หรือสตาร์ทอัพ ที่ต้องการระดมทุนในรูปแบบ Equity Crowdfunding จะเริ่มลงทุนได้ที่หน่วยลงทุนละ 50, 000 บาท(โดยประมาณ) โดยมีนักลงทุน 2 แบบ คือ
นักลงทุนรายย่อย เป็นนักลงทุนทั่วไป ที่มีคุณสมบัติตามที่ กลต กำหนด โดยจะลงทุนได้สูงสุดไม่เกิน 100, 000 บาทต่อ 1 หุ้นคราวด์ฟันดิง และ รวมไม่เกิน 1, 000, 000 บาท ในรอบ 12 เดือน
นักลงทุนที่มิใช่รายย่อย (Non-retail investor) เป็นนักลงทุนที่จะไม่มีข้อจำกัดด้านมูลค่าสูงสุดในการลงทุน แบ่งออกเป็น
ผู้ลงทุนสถาบัน Institutional Investor (II)
ผู้ลงทุนที่มีลักษณะเฉพาะ Qualified Investor (QI)
3.