อาการปัสสาวะแสบขัดที่เกิดจากการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ปกติมักจะพบในเพศหญิง แต่หากพบในเพศชายอาจต้องไปตรวจเพิ่มเติมว่ามีโรคนิ่วระบบไต หรือความผิดปกติของทางเดินปัสสาวะอื่นๆ หรือไม่
2. อาการปัสสาวะลำบาก ต้องเบ่งแรง ปัสสาวะไม่พุ่ง หรือปัสสาวะสะดุดกลางคัน บ่งบอกถึงว่ามีการอุดตันของทางเดินปัสสาวะ เช่น ต่อมลูกหมากโตในเพศชาย หรือมดลูกหย่อนในเพศหญิง
3. ปัสสาวะกลางคืนบ่อยกว่าปกติ ในคนปกติเมื่อเรานอนหลับ 6-8 ชั่วโมง มักจะไม่ต้องตื่นขึ้นมาปัสสาวะ หรืออาจตื่นขึ้นมาปัสสาวะกลางคืนได้ 1-2 ครั้ง เนื่องจากในตอนกลางคืน ไตจะดูดกลับน้ำมากขึ้น ทำให้การขับปัสสาวะลดลง แต่ในคนที่เป็นโรคไตเรื้อรัง ไตจะดูดกลับน้ำได้ไม่ดี ทำให้ต้องลุกมาปัสสาวะตอนกลางคืนบ่อยๆ อีกโรคที่ทำให้มีอาการนี้ คือ เบาหวาน ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของภาวะไตเรื้อรังเช่นกัน
4. ปัสสาวะเป็นสีน้ำล้างเนื้อ เลือด หรือขุ่นกว่าปกติ ซึ่งบ่งบอกว่ามีเลือดปน หรือมีการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ สาเหตุ เช่น มีนิ่ว, ไตอักเสบ หรือเนื้องอกทางเดินปัสสาวะ
5.
โควิด
Covid
โรคไตเรื้อรังเป็นกลุ่มโรคที่ไม่ติดต่อ (non-communicable disease) โรคหนึ่งที่มีความสำคัญ และมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละปี จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขในปี 2558 พบว่าคนไทยป่วยด้วยโรคไตเรื้อรังร้อยละ 17. 6 ของประชากร หรือประมาณ 8 ล้านคน เมื่อการทำงานของไตลดลงจนกระทั่งอัตราการกรองของไต (estimated glomerular filtration rate; eGFR) น้อยกว่า 15 มิลลิลิตรต่อนาทีต่อ 1.
โอมิครอน
อยู่ได้นานหลายสิบปี
หน้าตาสดใส สุขภาพแข็งแรง ก็มี:
ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า
ทำไมถึงต้องฟอกไต ฟอกเลือด
เพราะเราปล่อยไตให้เสื่อมหนัก
จนร่างกายเอาไม่อยู่
สิ่งที่เสี่ยงมากที่สุดคือ น้ำท่วมปอด
จนต้องพาเข้าห้อง ICU
ในสภาวะที่ผู้ป่วยอ่อนแอ
โอกาสที่คนป่วยติดเชื้อ
ในกระแสเลือดจึงมีสูง
ส่งผลอันตรายถึงชีวิตได้
หากปล่อยในสภาพแบบนี้
รู้หรือไม่? เมื่อถูก "ฟอกไต" ต้องฟอกตลอดชีวิต! แพทย์ผู้ทำการรักษาจะเป็นคนบอกท่านเองว่า
ท่านควรได้รับการฟอกเลือดเมื่อใด?
เบาใจสบายกาย ความรักมักวนเวียนอยู่รอบๆตัวเรา จะเรียกว่าตลอด 24 ชั่วโมง...
ควบคุมระดับความดันโลหิตให้ต่ำกว่า 130/80 มิลลิเมตรปรอท ซึ่งในข้อนี้ มีการแนะนำเกี่ยวกับกลุ่มของยาลดความดันโลหิตที่สามารถเลือกใช้ตัวใดตัวหนึ่ง หรือใช้ร่วมกัน หากไม่มีข้อห้าม และควรมีการปรึกษาแพทย์ 3. ผู้ป่วยเบาหวานที่มีอัลบูมินในปัสสาวะ และ/หรือมีภาวะความดันโลหิตสูงต้องได้รับการรักษา ควบคุมระดับความดันโลหิตให้ต่ำกว่า 130/80 มิลลิเมตรปรอท เพื่อช่วยชะลอการเสื่อมของไต 4. ควรได้รับคำแนะนำและควบคุมปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ อย่างเหมาะสม ได้แก่ การควบคุมระดับไขมันในเลือด การควบคุมน้ำหนัก การออกกำลังกายสม่ำเสมอ และงดสูบบุหรี่ 5. ควรได้รับการดูแลรักษาเช่นเดียวกับผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง เช่น จำกัดปริมาณโปรตีนในอาหารให้เหมาะสม ________________________________ ขอบคุณข้อมูล: ศ. เกียรติคุณ แพทย์หญิงวรรณี นิธิยานันท์ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล ภาพ:
โอไมครอน
- เบาหวาน ระยะ สุดท้าย อาการ omicron
- คู่มือ a7 2018 specs
- Dodee1: เคล็ดลับ?วิธี?ปรุงอาหาร?ยอดมะพร้าวอ่อน?
- เบาหวาน ระยะ สุดท้าย อาการ โอมิครอน
- ตู้เย็น lg 14.2 คิว ราคา
- Benq sw270c ราคา
- Volvo s80 2.5 ft มือ สอง 4
- แพร่ ไป อุตรดิตถ์
- เกม 18 pc game
- ของฝากจากดอยทอดไทย เดินตลาดบ้านเหล่า เวียงเชียงรุ้ง - Bilibili
- เบาหวาน ระยะ สุดท้าย อาการ สาเหตุ
- เบาหวาน ระยะ สุดท้าย อาการ การป้องกัน
เบาหวาน... ทำให้ไตเสื่อม | โรงพยาบาลเปาโล - Paolo Hospital
0-2271-7000 ต่อ เบาหวานและเฉพาะโรค
เผยแพร่: 27 ม. ค. 2559 09:29
ปรับปรุง: 27 ม. 2559 09:33
โดย: MGR Online
ประเทศไทยมีผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานเป็นจำนวนมาก เฉลี่ยอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป เป็นโรคเรื้อรังที่ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้มากมาย โดยพบว่า ผู้ป่วยเบาหวานร้อยละ 95 เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 คือโรคไตจากเบาหวาน จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็น "เบาหวานลงไต" โรคไตจากเบาหวาน หรือ "เบาหวานลงไต" เป็นภาวะแทรกซ้อนเรื้อรังในผู้ป่วยเบาหวาน ลักษณะอาการ มีดังต่อไปนี้ 1. มีภาวะโปรตีนชนิดอัลบูมินรั่วออกมาในปัสสาวะ ระยะแรกมีปริมาณเล็กน้อย และมากขึ้นตามลำดับ 2. มีความดันโลหิตสูง 3. การทำงานของไต ในระยะแรกจะปกติ ต่อมาจะเริ่มเสื่อม และเสื่อมมากขึ้นจนเกิดโรคไตเรื้อรังระยะสุดท้ายในที่สุด ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคไตจากเบาหวาน 1. ระยะเวลาของการเป็นเบาหวานมานาน 2. มีประวัติครอบครัวของโรคไตจากเบาหวาน หรือไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย หรือความดันโลหิตสูง 3. การควบคุมระดับน้ำตาลได้ไม่ดี 4. การควบคุมระดับความดันโลหิตสูงได้ไม่ดี 5. ภาวะไขมันในเลือดสูง 6. มีโปรตีนชนิดอัลบูมินรั่วออกทางปัสสาวะมากกว่าปกติ 7. การสูบบุหรี่ แนวทางการป้องกันและรักษา 1. ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับดี 2.